ท่านี้ ค่อนข้างยากนิดนึงสำหรับการสอบครั้งแรกค่ะ เพราะต้องเอารถออกจากซอง ท่าที่ 1 แล้วมาต่อด้วยท่านี้ ทำให้พื้นที่ตั้งลำเหลือน้อย เทคนิคท่านี้ไม่มีอะไรเยอะค่ะ พูดง่ายๆ ใช้สายตากะๆเอานั่นแหละ เพราะเอากระดาษเหน็บไว้หน้ารถ ก็ต้องใช้สายตามองสันเส้นฟุตบาท ลากตรงมาที่กระดาษ 555 ทำให้คนตกท่านี้กันมากโขอยู่ แต่ถ้าไปสอบซ่อมจะง่ายหน่อย เพราะเดินหน้าตรงเทียบได้เลย ส่วนท่าอื่น มีตกบ้างประปราย ทาจอดเข้าช่อง ถ้าเริ่มต้นถูก step ที่เหลือคือ ชิลๆๆแล้ว จำ step ทุกขั้นตอนได้ก็จะโอเค

เอาจริงๆ เจ้าของโพสต์นี้ดั้งเดิม คือ ตั้งแต่สมัยสอบที่ตลิ่งชันนู้น สนามที่นู้น ก่อนเทียบจะต้องเจอสกัดด้วยโค้งหักศอก โค้งนี้ไม่ใช่ท่าสนาม แต่เป็นลักษณะทางกายภาพของสนามที่นั่น น้องเค้ากังวลท่านี้ สุดท้ายสอบตกด้วย ท่าเดินหน้าตรง ถอยหลังตรง ท่าอื่นผ่านหมด น้องเค้าเดินหน้าแต่ลืมถอยหลัง อันนี้จดจำได้แม่นยำ เพราะได้ยินครูพูดว่า เอาแค่เทคนิคท่าทเยบ กับจอดเข้าช่องมาสอนนักเรียนก็พอ ท่าสุดท้าย 3 เดือนจะตกกันซะที ไม่ตก แต่สุดท้ายน้องเค้าตก เลยจำได้ตั้งแต่นั้นมาเลยค่ะ

เทียบฟุตบาทตกมา2ครั้งแระ ทำไมมันยากจัง เข้าใจดีทุกอย่างว่าจะต้องทำหยั่งงัย เฮ้อ!แต่พอลงสนามสอบทำไมมันถึงได้ไม่ผ่าน เซ็งๆๆ:y::y::y:

แนะนำให้ยกมือไหว้แม่ย่านางรถก่อนสอบค่ะ เพราะตอนที่สอบก็ผ่านแบบงงๆ เหมือนมันเป็นไปเองตามสัญชาตญาน ถ้าตอนครูสอนทำได้ตอนสอบแค่ระลึกถึงที่ครูสอนว่าแค่หางตาเหลือบมองก็พอ มองตรงเอาไว้เพราะถ้าหันไปมองมันจะเผลอหักพวงมาลัยตาม สู้ๆนะคะ:r::r:

555 เริ่มพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ช่วยได้เยอะนะคะ จะได้สงบจิต สงบใจก่อนลงสอบ ความตื่นเต้นจะได้ลดลง ฝีมือไม่เกี่ยว เกี่ยวที่ไม่ตื่นเต้น ผ่านชัวร์

ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก้อต้องเอาด้วยกล นู๋ไหว้ตั้งแต่ประตูทางเข้าเรย อิอิ :ss::ss:

555 เหมือนกันเลย ชีวิตโตมาและอยู่รอดด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะทำอะไรก็แล้วแต่ติดสินบนตลอดดดดด  พระพรหม ก็เอา Mc นักเก็ตไปฝาก สอบก็หลับรอพระอินทร์เข้าฝันมาบอกคำตอบ  ล่าสุด แม่ไปบนพระนอน ที่วัดสะตือ ไม่แน่ใจว่าจังหวัดอะไร แก้บนด้วยรำกลองยาว 99 รอบ 555 ชีวิตเลยไม่ค่อยได้แสดงความสามรถที่แท้จริงสักเท่าไหร่  ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ต้องเอาด้วยกล ไม่ด้วยมนต์ ต้องใช้คาถา

ขอบ่นนิดนึงนะ

เอาจริงๆ จะจอดชิดฟุตบาทอะไรกันมากมาย
ชีวิตจริงเห็น99% ก็จอดไม่เหยียบเส้น
ใครจะอยากเสี่ยงเอาล้อไปรูด
ถ้าต้องจอดชิดแล้วจะได้ใบ
ก็น่าจะยกเลิกระบบต้องสอบใบขับขี่จะดีกว่า
ระบบนี้ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายมากมายกันเป็นต่อเป็นทอด
ก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่

ยกเลิกระบบนี้ได้ จะมีใครอดตายบ้าง

สังคมไทยตอนนี้
ไม่ได้ต้องการคนจอดรถได้ เป๊ะเว่อร์
แต่ต้องการคนขับรถมีน้ำใจ มากกว่านะ

ขอหนูๆรุ่นต่อไปที่กำลังจะได้ลงถนน
ขับรถมีน้ำใจ ใจเย็นๆ ต่อเพื่อนร่วมถนนกันนะ
แบ่งปันกันไป ขอเข้าขอแทรกก็ยอมๆกันหน่อย
ผิดกันนิดหน่อย โดนปาด ไฟสูง ก็อย่าไปยิงกันตาย
พวกปาดแล้วยิงกันตายก็ดันมีใบขับขี่อีก
คือเขาคงจอดได้เป๊ะเว่อร์
แต่ไม่มีมารยาทในการขับ

ขอบคุณที่อ่านจ้ะ

เห็นด้วยค่ะ เรื่องในชีวิตจริงมันไม่มีอะไร perfect แต่มันก็ไม่ควรทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย เช่น จอดไม่ชิดฟุตบาท จอดห่างจากฟุตบาทเกิน 25 ซม แต่มันก็ไม่ควรเกิน จนกินเลนส์ไปจนรถคันอื่นวิ่งไม่ได้ ขณะเดียวกันเรื่องมารยาทบนท้องถนนก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่เรื่องนี้บางครั้งอยู่ที่ตัวบุคคลเป็นหลัก อารมณ์และสติสัมปชัญญะของตัวบุคคล ยากที่จะคัดกรองจากความสามารถในการขับรถ และยากที่คัดกรองพวกไร้มารยาทออกมาด้วยวิธีใดก็ตาม ต่อให้มีใบรับรองจากจิตแพทย์เหมือนในบางประเทศก็ไม่ได้เป็นตัวกรองที่ดี

แต่ไม่เห็นด้วยเลยกับการให้ยกเลิกระบบสอบใบขับขี่ การสอบแม้ว่ามันจะไม่ใช่ตัววัดทักษะและความพร้อมสุดขีดในการขับรถ แต่มันเป็นการวัดความพร้อมเบื้องต้นในการขับรถ เพราะมิฉะนั้นแล้วคนมีเงินซื้อรถ แต่ขับรถไม่เป็น สามารถนำรถออกมาใช้ได้บนถนนแบบไร้ขอบเขตมันก่อให้เกิดอันตรายและความเสียหายอย่างใหญ่หลวงทั้งต่อคนขับและคนรอบข้างค่ะ ดังนั้นคนที่ต้องการใช้รถบนถนนจำเป็นต้องผ่านการทดสอบ ต่อจากนั้นมาคิดต่อว่า ใบขับขี่ แสดงถึงความพร้อมในการขับรถแล้วหรือไม่ โดยส่วนตัว ตอบได้เลยว่าไม่ เราต้องฝึกฝนบ่อยๆจนกว่าเราจะขับได้ดี แนวคิดสมัยก่อน บแกได้เลยว่า ต้องขับเป็นขับได้ จึงจะไปสอบ มีใบขับขี่ แล้วซื้อรถ แต่ปัจจุบันแนวคิดนี้มันเปลี่ยนไปมากเลย จากการพูดคุย ทุกคนเริ่มต้นจากซื้อรถ มีรถ ขับไม่เป็น มาเรียน ด้วย objective เดียว คือ ให้มีใบขับขี่ น้อยคนจะคิดถึงว่าสิ่งที่สำคัญคือการขับให้เป็นแล้วใบขับขี่ ถือเป็นผลพลอยได้จากการขับเป็น ถ้าอ่านดูในบอร์ดนี้หนูพูดถึงเรื่องพวกนี้มาตลอด

ถามว่ากรมขนส่งมี development หรือ concern ให้การวัดความพร้อมของผู้ขับขี่หรือไม่ บอกได้เลยค่ะมีตลอดเวลา ทุกครั้งที่มีข่าวใหญ่เกี่ยวกับอุบัติเหตุ จะมีแผนการปรับปรุงคุณภาพการสอบเสมอ เช่น เหตุผลที่เราต้องตรวจร่างกายใหม่ทุกครั้ง หรืออบรมใหม่ทุกครั้งที่ต่อใบขับขี่ หรือยกเลิกใบขับขี่ตลอดชีพ เป็นผลมาจากคดีหมูxxxซิ่งเบนซ์ชน จึงจำเป็นต้องอบรมทุกครั้งที่ต่อใบขับขี่เป็นการ refresh ความรู้ มารยาทของผู้ขับขี่ทุกๆ 5 ปี การต้องสอบ 2 วันโดยเพิ่มชั่วโมงการอบรมเป็น 4 ชม หรือ 16 ชม ในอนาคตอันใกล้ เป็นผลมาจากคดีดังบนทางด่วน เรื่องพวกนี้อาจจะไม่ใช่เหตุผลทางตรงของการเปลี่ยนแปลงระบบสอบ แต่เป็นแรงบีบคั้นของสังคมที่เรียกร้องให้เพิ่มความเข้มงวด เพิ่มความยากในระบบการสอบ จนวนกลับมาเป็นปัญหาสังคมอย่างเช่นเรื่องซื้อใบขับขี่ ยิ่งยากมากแค่ไหน คนยิ่งมีความต้องการซื้อมากขึ้น เจ้าหน้าที่หรือโรงเรียนสอนขับรถทุกคนมีส่วนผิด แต่ถ้ากลั่นกรองกันดีๆ สาเหตุเกิดจากเพราะมีคนไปเสนอ ด้วยเหตุผลเดียวคือ ไม่มีเวลา เป็นเหตุผลที่ทุกคนใช้หลอกตัวเอง เพื่อซื้อเวลาในการสอบ ถ้าไม่มีคนเสนอ ทุกคนไปสอบ ตามวิถีปกติอย่างที่ควรจะเป็น เรื่องการซื้อใบขับขี่หรือเสียเงินเสียทองจะไม่เกิดขึ้นเลย 

นักเรียนทุกคนที่เข้ามาบ่นในบอร์ดนี้ ว่าสอบไม่ผ่านหรือทุกคนที่เข้ามาแสดงความดีใจว่าสอบผ่าน เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการที่เค้าจะมีใบขับขี่ เค้ามีทางเลือกอีกทางที่ไม่ต้องเสียเงิน คือไปสอบด้วยตัวเค้าเอง ไม่ผ่านก็ไปสอบซ่อม ซ่อมจนกว่าจะผ่าน แค่อย่าเสียดายเวลาที่ต้องมาสอบเพราะเคยพูดหลายที ว่าบางครั้งรู้ว่าเทคนิคคืออะไร แต่ไปสอบแล้วไม่ผ่าน บางทีการสอบไม่ได้วัดเลยว่า ใครเก่งกว่าใคร แต่วัดว่าใครสามารถควบคุมสติได้ดีกว่ากัน ซึ่งก็จำเป็นเหมือนกันในการขับรถ หลายคนมาเรียนเพื่อใบขับขี่ แต่ขณะเดียวกันก็มีอีกหลายคนที่เปลี่ยนความคิดว่าเอาขับให้ได้ก่อน แล้วใบขับขี่จะตามมา สามารถหาอ่านในบอร์ดนี้ได้ที่นักเรียนหลายคนเข้ามาพูดคุยความรู้สึกของเค้า

ปล ส่วนตัวAdmin เอง ที่เขียนว่าติดสินบน ในชีวิตไม่เคยใช้เงินซื้อความสำเร็จ แต่ที่บอกว่าติดสินบน คือไปไหว้ หรือบนบานศาลกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปทั่ว จะเรียกว่าใช้เงินก็ใช้ ซื้อ ธูปเทียนดอกไม้บูชา กับ แม๊กนักเก๊ตแก้บนเท่านั้น ใบขับขี่ สอบผ่านด้วยตัวเองเหมือนนักเรียนคนอื่นๆค่ะ ถึงได้ภูมิใจมากมาย แม้ว่าคนรอบข้างจะว่าว่าเราขับไม่เอาไหน แต่เราก็ภูมิใจมากมาย เพราะว่าไม่เอาไหนยังไง เราก็ขับตามมารยาทเป๊ะ ต่อแถวเข้าคิวแม้ว่าจะติดเป็นชั่วโมงก็ตาม (เพราะว่าเบียดแทรกเพื่อนระยะประชิดไม่เป็นต่างหาก 555) อุบัติเหตุเกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิตด้วยความประมาท ตามที่เล่าในหลายๆครั้ง นอกจากครั้งนั้นแล้วก็ไม่เคยอีกเลย

ดังนั้นหนูก็อยากจะฝากทุกคนเอาไว้ ณ ที่นี้ ว่าแม้ว่าระบบสอบใบขับขี่ในเมืองไทย อาจจะดูไม่มีประสิทธิผลเท่าที่ควร หรืออาจจะสร้างความรำคาญใจในระบบราชการ จริงๆแล้วไม่ได้ผิดที่ตัวระบบเลย ไม่ว่าจะเรื่องมารยาทบนท้องถนนด้วยเหมือนกัน หากจะเปลี่ยน เปลี่ยนที่แนวคิดเรานี่แหละ ขับรถอย่างมีน้ำใจ ยอมได้ยอมไป ช้าไปสักนิดก็ 5 นาที 10 นาที ดีกว่าเกิดอุบัติเหตุแล้วเสียเวลาเป็นชั่โมง ระมัดระวัง ไม่ประมาท เลิกคิดว่าการมาเรียนขับรถเป็นการบายพาสการสอบ และเลิกคิดว่าการมาเรียนขับ ทำให้ซื้อใบขับขี่ได้ ไม่ปฏิเสธทุกโรงเรียนหาซื้อให้ได้ใบขับขี่ แต่ถ้าเราไม่เสนอ หรือบอกเล่าความต้องการ มันจะไม่มีคนสนอง และระบบนี้จะสูญหายไปในที่สุด ให้คิดใหม่ว่ามาเรียนขับรถ เพื่อขับรถให้มันเป็น พอขับเป็น มันก็จะสอบได้ เพราะท่าสอบเป็นเรื่องพื้นฐานทั้งสิ้น ถ้าพื้นฐานไม่ได้ ถามตัวเองว่าพร้อมใช้รถแล้วหรือยัง

ขอบพระคุณมากค่ะ

:ss: :ss: :ss: :ss: :ss:

เอ่อ Admin ค่ะที่ว่าบนด้วย Mc นักเก็ตเนี่ยสมหวังหรือป่าว นู๋จะได้ไปขอท่านบ้าง อิอิ :h: :h:

ปล. ตอนนี้นู๋สอบท่านี้ผ่านแล้ว ได้ใบขับขี่แล้วยังม่ายมีใครกล้านั่งรถไปกะนู๋เรย มีแต่ครู รร. นี้กะป่ะป๊าที่กล้านั่งไปข้างๆๆ

พี่ๆๆ กะเพื่อนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "เด๋วไปดูดวงก่อน ถ้าแคล้วคลาดเด๋วพวกชั้นจะนั่งไปเป็นเพื่อนแกเอง" :R: :R: :R: :angry:

ไม่รู้นะ เพราะคนอื่นถวายไข่ต้ม ที่พระพรหม แต่เราไม่มีปัญญาต้มไข่ เลยแบบว่า เอาง่ายหน่อย นักเก็ต 10 ชิ้นหรือ 12 ชิ้นไม่รู้ 9 ชุดอะไร พร้อมกับ จ้างนางรำ 8 องค์ จัดเต็มแม๊กเลย ชุดใหญ่ แบบว่าเอาแบบหาซื้อง่าย เราชอบกิน เผื่อท่านกินไป ชมระบำรำฟ้อน จะอารมณ์ดีมาช่วยเรา และแล้วก็สอบผ่านนะ แต่ตอนนั้นไม่ได้เกี่ยวกับสอบใบขับขี่ เพราะไปสอบใบขับขี่ แบบเสมอตัว ใครๆก็ว่าสอบไม่ผ่าน ดังนั้นตกก็เท่ากับความคาดหวังของคนอื่น ผ่านก็กำไร แม๊กนักเก็ต ถวายตอนสอบใบประกอบวิชาชีพอะ 555

ต๊อแต๊ เหมอนกัน สอบหมอชิตวันนี้รอบ3กะได้ใบขับขี่มาอชยชม แต่ก้ไม่สมหวัง ดันไปเบียดเกินไป ครังแรก ได้ข้าง หน้าห่าง ครั้ง2ข้างห่างได้หน้า เฮ้อ ตรังทีาสี่เนี๊ยหมดแรงแล้ว จริ

เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้ว นึกถึงตัวเองตอนที่สอบเลยค่ะ ตกท่านี้ 3 รอบค่ะ เครียดมากเหมือนกัน เพราะเราดูแล้วเหมือนไม่ยาก แต่เอาเข้าจริงๆ ทั้งชนฟุตบาทบ้าง ไกลเกินไปบ้าง แต่อยากบอกว่า ยิ่งเราเครียด ยิ่งประหม่า ใจเราจะไม่นิ่งค่ะ แต่ถ้าเราปล่อยตัวตามสบาย ทำให้ตัวเองผ่อนคลาย ลัลล้าเข้าไว้ ใจเราจะนิ่ง ซึ่งน่าจะทำให้เรามีชัยไปครึ่งหนึ่งแล้วค่ะ มันไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของเราไปได้หรอกค่ะ แม้ในความจริงคงไม่มีใครเอาล้อรถตัวเองไปรูดฟุตบาทเล่น แต่ในการสอบใบขับขี่ ยิ่งยากแค่ไหน แต่ถ้าเราได้มันมาด้วยความสามารถของเรา มันจะมีค่ากับเรามากๆค่ะ เอาใจช่วยนะคะ ขอให้สอบผ่านนะคะ สู้ๆค่ะ

:-_-:หากเราตั้งใจทำอะไรสักอย่าง และเราเต็มที่กับมันแล้ว ผลที่ออกมาจะแพ้หรือชนะ มันก็ไม่สำคัญค่ะ :-_-:

สอบที่ขนส่งบางจาก ง่ายมากๆ จนท ใจดี เช่ารถสอบ ท่านี้ให้เอาล้อเบียดฟุตบาทได้ พอรู้สึกว่าเบียดปุ๊ปก็เบี่ยงพวงมาลัยออกมานิดเดียว
คนชอบไปสอบที่จตุจักร ทั้งๆที่บางจากก้อเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า แถมสนามสอบก็ยังเป็นแบบเก่า แบบเสาท่อประปา ไม่กดดัน
ใครยังไม่ได้สอบ แนะนำให้ไปสอบที่บางจากนะ คนไม่เยอะเหมือนจตุจักร เดินทางก็สะดวก ไม่ต้องจองคิว ว่างวันไหนก็ไป ไปถึงสักเจ็ดโมงก้อยังทันได้คิว

ได้ข่าวมาว่าปีหน้าจะเพิ่มท่าสอบอีก แต่ไม่รู้ชัวร์ป่าว เพราะฉะนั้นใครยังไม่ผ่าน สอบให้ผ่านในปีนี้เลยนะ

ศิษย์เก่าที่เคยตกท่านี้ พอมาฟังครูติวสดข้างสนามก่อนสอบ ครูบอกคำเดียวว่าถ้ารถเริ่มไหลตรงไปข้างหน้าให้ใช้หางตามองกระจกซ้ายว่าเห็นเส้นไหม ถ้าไม่เห็นแสดงว่าเราเหยียบเส้นแล้วตั้งสติจับพวงมาลัยตรง และหยุดในที่ที่ให้หยุดรถ แค่นี้ผ่านเลย รอบสองได้ใบขับขี่ อิอิ